มนตร์จริตเกลศมาร

ย้อนไปเมื่อตอนเป็นเด็กมักถูกผู้ใหญ่พูดขู่เสมอๆ ว่า “อย่าปีนต้นไม้ เดี๋ยวผีดึงขา” “นอนสูง นกยูงจิกหัว” “มืดค่ำแล้วอย่าออกไปวิ่งเล่น ทางหน้าบ้านมีผีกระสือ” ล้วนแต่ทำให้เด็กตัวน้อยๆ “ขวัญผวา” ตอนวิ่งเล่นหกล่ม หากแม่รีบวิ่งมาโอบอุ้ม เด็กหลายคนจะร้องเสียงดังมากขึ้น ราวกับว่าตัวเองบาดเจ็บสาหัส ที่เล่ามามันเกี่ยวข้องกับ “จิตใจ” ของคนเราค่อนมาก ในทำนองว่า “จิต” ออกคำสั่ง “กาย” ในทำโน่นทำนี้นั่นแหละ เรื่องที่ได้รับฟังจากปากคนอื่นกระทบต่อความรู้สึกตรงๆ ในช่วงที่จิตใจยังไม่มีประสบการณ์ เกิด”อาการตกใจ อารมณ์สะเทือนใจ” เกิดขึ้นฉันใดแล้วจะเป็น “ประทับความทรงจำตลอดไปจนถึงวัยผู้ใหญ่” สภาพจิตใจที่เปลี่ยนไปมีความเกี่ยวข้องกับระบบต่อมไร้ท่อภายในร่างกายเรา เช่น ตกใจสุดขีดเพราะบ้านไฟไหม้ สามารถยกตู้เย็นขนาดใหญ่ออกมาข้างนอกได้ ตอนยกเข้าไปตั้งในบ้านต้องสองคนหาม ด้วยเหตุต่อมหมวกไตถูกกระตุ้นจึงหลั่งฮอร์โมนแอดรีนาลินเข้าสู่กระแสเลือดมากขึ้นจนทำให้หัวใจสูบฉีดเลือดแรงขึ้น ขบวนการเมตาบลิซึมเปลี่ยนน้ำตาลเป็นพลังงานเพิ่มมากขึ้น จึงเกิดพลังที่คนปกติทำไม่ได้ ผู้ฝึกสอนนักกีฬามักใช้กลยุทธนี้ชักนำให้นักกีฬาของตนเองเกิดความฮึกเหิม หว่านล้อมว่าคู่ต่อสู้ว่าเราพอสู้ได้ ชี้จุดอ่อนของคู่แข่งไม่ให้ทีมเราตื่นกลัว และขณะกำลังแข่งขันเราได้ยินนักกีฬา “ตะโกนเสียงดังๆ” ก่อนส่งลูกและเมื่อแต้มได้เสมอๆ ยายที่ต่างจังหวัดคนหนึ่ง บ่นปวดแข้งปวดขา นอนไม่หลับ พาไปหาหมอตรวจแล้วไม่เป็นอะไร แต่ยายยืนยันหนักแน่นว่าปวดขา และปวดศีรษะทำให้นอนไม่หลับ อยากให้คุณหมอจัดยาแก้ปวดและยานอนหลับให้ หมอผู้ใจดีก็พูดตามใจคุณยายแต่ให้เพียงวิตามินไปรับประทานและนัดมาพอีกหลังหนึ่งเดือนผ่านไป “คุณหมอจ๋า ยาดีจริงๆ หายปวดขาแล้ว หัวก็ไม่ปวด นอนหลับสบาย” […]

มนตร์จริตเกลศมาร Read More »